วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

โรคความดัน เบาหวาน ไขมันพอกตับ

แพทย์วิถีธรรม (ยา ๙ เม็ด)
บรรยาย โดย หมอเขียว ใจเพชร กล้าจน
วิเคราะห์โรคความดัน เบาหวาน ไขมันพอกตับ




(ตอนที่ 1 ความดันโลหิตสูง)
               มาดูกลไกทางวิทยาศาสตร์และพุทธศาสตร์ สังเคราะห์รวมกัน เพื่อที่จะเข้าใจความจริงของโรคภัยไข้เจ็บให้ชัดยิ่งขึ้นนะครับ จากนั้นช่วงท้ายไม่แน่ใจว่าจะทันไหม ถ้าทันก็จะวิเคราะห์พฤติกรรมร้อน พฤติกรรมเย็น โดยแยก พฤติกรรมร้อน พฤติกรรมเย็น แล้วก็รวมไปเป็นสูตรสรุปให้ฟังกัน เอาเป็นว่าช่วงนี้เรามาวิเคราะห์เป็นโรคๆ ที่สำคัญ ดังนี้
              ความดันโลหิตสูง เกิดจากมีพิษข้อใดข้อหนึ่งใน ๙ ข้อนั้นเข้าไปในร่างกายของเรา เมื่อเข้าไปในชีวิตของเรา ทำให้จิตวิญญาณสั่งประสาทอัตโนมัติ ไขสันหลังให้เบ่งตัว บีบเอาพิษออก โดยเฉพาะพิษนั้นมันตกค้างอยู่ที่หัวใจและหลอดเลือดมาก จิตวิญญาณเป็นตัวสัญญา สั่งให้หัวใจบีบตัวแรงเพื่อขับพิษออกไป เมื่อหัวใจบีบตัวแรง ความดันโลหิตก็จะขึ้น นี่คือความดันโลหิตสูง เมื่อความดันโลหิตสูงขึ้นมากๆ เส้นเลือดในสมองก็แตกได้ อาจเป็นอันตรายอีกหลายอย่างนะครับ 

              แล้วจะรักษาแบบแพทย์วิถีธรรม ทำอย่างไร พระพุทธเจ้าตรัสว่าดับทุกข์ให้ ดับที่เหตุ ดับเหตุแห่งทุกข์ ทุกข์ดับเกิดสุขขึ้น เพราะฉะนั้น ต้นเหตุคือ มีพิษ เราก็ต้องระบายพิษออกซะ แล้วใส่สิ่งที่สมดุลร้อน เย็นเข้าไป เมื่อเราระบายพิษออกด้วยวิธี ๙ ข้อ ยา ๙ เม็ดครับ ร่างกายเราก็ไม่มีพิษต้องบีบ ออก จิตวิญญาณจะสั่งให้หัวใจของเรานั้น คลายตัว เพราะไม่ต้องบีบเอาพิษออกแล้ว ทำให้ความดันลดลง เค้าก็บีบตัวแค่เอาเลือดไปเลี้ยงร่างกายเท่านั้น เพราะจิตเค้ารู้ว่าจะเอาเลือดไปเลี้ยงเท่าไหร่อย่างไร เมื่อความดันโลหิตลดลง ก็หายไปจากโรคความดันโลหิตสูงได้ นี่คือความดันก็เป็นเช่นนี้นะครับ ก็รักษาไม่ยากอะไร 
               คนจำนวนมากของเราจึงหยุดยาความดันโลหิตสูงได้นะครับ ในการกินยาเป็นไง 
วิเคราะห์นิดหนึ่ง การกินยา ยาก็ไปสั่งหัวใจ สั่งระบบประสาท สั่งหัวใจอย่าบีบตัวแรง อยากบีบเอาพิษออก ตกลงหัวใจก็ไม่บีบตัว เอาพิษออก ก็บีบตัวแค่พอดี กดหัวใจไว้ เสร็จแล้วพอพิษมากเข้าๆๆ เป็นไง ร่างกายทนไม่ได้ ชีวิตทนไม่ได้ พอทนไม่ได้ สั่งหัวใจบีบตัวเลย ไม่ต้องไปฟังยา บีบตัวแรงๆเลย เราจะตายอยู่แล้ว พิษเต็มไปหมดอยู่แล้ว ก็สั่งให้หัวใจบีบตัวแรงๆ พอสั่งให้หัวใจบีบตัวแรงความดันก็ขึ้นอีก ยาก็เอาไม่อยู่ หมอก็เปลี่ยนยาตัวใหม่แรงกว่าเดิม กดหัวใจ แรงกว่าเดิม แต่ต้นเหตุไม่แก้หรอก กดหัวใจแรงกว่าเดิมอีก ก็หยุดได้สักพักหนึ่ง 
               แต่ใส่พิษเข้าไปเรื่อยๆ ความเครียด อาหารรสจัด อาหารเนื้อสัตว์ และ มลพิษต่างๆ ใส่เข้าไปไม่รู้จบ ไม่รู้แล้ว ใส่เข้าไปมากเข้าๆ ชีวิตทนไม่ได้ จิตวิญญาณสั่งเลย หัวใจบีบตัวแรงๆอย่าไปฟังยา บีบเอาพิษออกเลย เราจะตายแล้วก็ทำอยู่อย่างนี้แหละ หมอก็เปลี่ยนยาไปเรื่อยๆ จนสุดท้าย ไม่มียาตัวไหนเอาอยู่ 
             ความดันขึ้น เส้นเลือดในสมองแตกตาย กินไปรอให้เส้นเลือดในสมองแตกตาย เท่านั้นจริงๆ ไตวายอย่างนี้เป็นต้น กินไปมากๆ สารพิษก็ไม่ได้แก้ ยาก็เป็นพิษ ทำลายสมอง ทำลายประสาท ไต หัวใจ ทำลายไต พังหมด สุดท้ายไตวายอีก ทำลายไต ก็ไตวาย เพราะว่ายาเป็นเคมีทำลายไตอยู่แล้ว เคมีเหล่านั้นพิษเดิมก็ทำลายไตอยู่แล้ว เคมีก็ทำลายไตเสร็จแล้วก็รวมกันไปทำลายไต ไตก็วาย ก็ฟอกไต ก็เท่านั้นเอง ฟอกไตบ้าง เส้นเลือดในสมองแตกตายบ้าง มีโรคแทรกซ้อนเยอะแยะต่างๆบ้าง การที่ไม่ดับทุกข์ที่ต้นเหตุทุกข์ไม่มีวันดับ พระพุทธเจ้ายืนยันเลยว่าดับทุกข์นั้น เอเสมะวะโคทันโย ทางนี้ทางเดียวเท่านั้น ทางอื่นไม่มีที่จะพาให้พ้นทุกข์ คือ สัมมาอารยมรรคมีองค์ ๘ เป็นอริยสัจ ๔ ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ รู้ว่าดับทุกข์ต้องดับที่เหตุ อื่นจากนี้ไม่มี ท่านตรัสอย่างนี้เลย ถ้าไม่ดับที่เหตุ ทุกข์ก็ไม่ดับ เอ้าจบไปเรื่องความดันโลหิตสูง


สนใจฟังบรรยายได้ที่ลิงค์ http://www.youtube.com/watch?v=u7OdbW0j9Oc&feature=plcp
ถอดเทป โดย คุณยุพิน ชัยเวชสกุล ขออนุโมทนาในการบำเพ็ญบุญในครั้งนี้


สนใจศึกษาข้อมูลแพทย์วิถีธรรมเพิ่มเติมได้ที่ http://www.morkeaw.net

โรคริดสีดวงทวาร

แพทย์ทางเลือกวิถีธรรม (ยา ๙ เม็ด)
โรคริดสีดวงทวาร
ตอบแหลกก่อนแหกค่าย โดยหมอเขียว



ถาม : “ริดสีดวงทวาร ควรปฏิบัติตัวอย่างไรให้หาย? เพราะมีเลือดออก ไปหาหมอให้ผ่าหรือใช้เลเซอร
ตอบ : ก็ทำยา ๙ เม็ดนี่แหละ ริดสีดวงทวารเป็นโรคร้อนเกิน เมื่อร้อนเกินมาก ๆ แล้ว ร่างกายก็พยายามดันเอาพิษร้อนออก มันก็ดัน เส้นเลือดก็ปูดไปหมด มันเผาให้แข็งก็เป็นก้อนงอกมาเรื่อย นะ มันก็เป็นก้อนริดสีดวงทวารอย่างงั้นแหละ บางทีร่างกายต้องผลิตเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาแทนเซลล์ที่เสื่อมด้วย ก็เป็นริดสีดวงทวารขึ้นมา ก็ทำให้เย็นมันจะยุบไปเอง มันจะยุบไป เม็ดเลือดขาวที่แข็งแรงก็จะมาทำลายเซลล์ส่วนเกินเองมันจะยุบไปเอง ทำให้เย็นลงด้วยการทำ ๙ ข้อ นะ กินอาหารฤทธิ์เย็นสมุนไพรฤทธิ์เย็นต่าง ๆ รวมทั้งเวลาดีท็อกซ์ถ้ามีเลือดออกให้ใช้พวกฝาด ๆ เข้าไปด้วย ถ้าให้ดีถ้าเรามีนะ เรามีน้ำคลอโรฟิลล์แล้วมีน้ำปัสสาวะแล้ว ถ้าเรามีอะไรฝาด ๆ เช่น เปลือกมังคุด เปลือกหว้า เปลือกดู่ เปลือกแดง เปลือกสะเดา เปลือกอะไรล่ะ สารพัดเรื่อง เปลือกทับทิม อย่างเงี้ย หรือใบฝรั่ง อย่างเงี้ย อะไรก็ได้ที่ฝาด ๆ นะครับ ซักครึ่งถึงหนึ่งกำมือเราไปต้มให้เดือดซัก ๕ – ๑๐ นาที แล้วปล่อยให้มันเย็นแล้วเอาตัว นั้นมาผสม หรือฝาดแบบสด ๆ ก็ได้นะครับ ฝาดแบบสด ๆ ก็ได้ หาอะไรที่ฝาด ๆ ผสมเข้าไปด้วย มันจะสมานแผลได้ดีมาก นะ เลือดจะออกน้อยลง แล้วไม่ต้องกลัวเลือดออกก็ออกไป ดีท็อกซ์มันสะอาดมันก็หยุดเองของมัน ไม่ต้องไปกลัว ทำให้มันเย็นแล้วมันจะหยุดเองของมัน นะครับ
แล้วก็เวลาที่เราพบติ่งริดสีดวงทวาร เวลามันอยู่ตรงไหน ๆ เราก็เอาน้ำมันฤทธิ์เย็นของเรานี่ น้ำมันกัวซานี่ไปทาได้ น้ำมันกัวซาผสมน้ำมันเขียวแล้วก็ทาได้นะครับพวกนี้ ส่วนใหญ่นะคนที่เป็นริดสีดวงทวารนี่เท่าที่เราพบนี่ปฏิบัติตัวแบบนี้อย่างเคร่งครัด ๑ เดือนจะยุบไป ส่วนใหญ่ แล้วภายใน ๑ สัปดาห์จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงแล้ว โดยส่วนใหญ่จะเป็นเช่นนั้นนะครับ 


ถอดเทปโดย KhunChai Sam อนุโมทนาบุญในการถอดเทปค่ะ


สนใจฟังเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์  http://www.youtube.com/watch?v=jk_c3QsgVGc

ศึกษาข้อมูลแพทย์วิถีธรรมเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์ http://www.morkeaw.net

วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ตัดต่อมไทรอยด์กับการดูแลสุขภาพแบบแพทย์วิถีธรรม

แพทย์วิถีธรรม (ยา ๙ เม็ด)
ตัดต่อมไทรอยด์กับการดูแลสุขภาพแบบแพทย์วิถีธรรม
คำถามอยู่ช่วง นาที่ 1.08
120722 แพทย์วิถีธรรม_ตอบเรื่องสุขภาพ
http://www.youtube.com/watch?v=UUxYEZ__aP4
ถอดเทป โดยคุณ Khunchai Sam อนุโมทนาในการบำเพ็ญบุญในครั้งนี้




 

ถาม : “เมื่อ ๕ ปีที่แล้ว ได้ตัดต่อมไทรอยด์ทั้ง ๒ ข้าง มีอาการมือสั่น เหนื่อยล้า เราจะต้องทำตัวอย่างไร? ขณะนี้ยังกินยาอยู่ หมอบอกว่ากินตลอดชีวิต น่าเบื่อ เหตุที่ตัดเพราะเป็นมะเร็งในไทรอยด์ ขอบคุณค่ะ”
ตอบ : จริง ๆ ไทรอยด์เป็นพิษเนี่ย เป็นไปมาก ๆ ก็จะเป็นมะเร็งนั่นแหละ มะเร็งไทรอยด์ ไทรอยด์เป็นพิษนั้น เกิดจากร่างกายมีพิษมาก ๆ เมื่อร่างกายมีพิษมาก ๆ จิตวิญญาณจะสั่งให้กล้ามเนื้อใช้พลังงานเกร็งตัวบีบเอาพิษออก ในปฏิกิริยารีเฟล็กซ์ เมื่อจะต้องใช้พลังงาน ก็ต้องไปกระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์นั้นหลั่งฮอร์โมนไทรอยด์ออกมามาก ๆ จิตนั่นแหละสั่งให้ต่อมไทรอยด์หลั่งฮอร์โมนไทรอยด์ออกมามาก ๆ เพื่อกระตุ้นกระบวนการเมาตาบอลิค ฮอร์โมนไทรอยด์นั้นกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญอาหารเมตาบอลิค เผาผลาญอาหาร ดังนั้นเมื่อฮอร์โมนไทรอยด์ทำงานมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ มันก็เป็นไทรอยด์เป็นพิษ คือฮอร์โมนไทรอยด์มากเกินพอดี
           พอไปกระตุ้นให้ร่างกายทำงานมาก ๆ กล้ามเนื้อเกร็งตัว บีบออก มันก็มีพิษค้างเต็มไปหมดเลยในร่างกายของเรา พิษเดิมก็ไม่ได้แก้ พิษใหม่ก็สร้างขึ้นมาจากการใช้พลังงานที่มาก ในการเกร็งตัวขับเอาพิษออก เพราะฉะนั้นพิษก็ยิ่งค้างมากกว่าเดิม เมื่อพิษค้างมากกว่าเดิมจิตวิญญาณก็ต้องยิ่งต้องสั่งให้ต่อมไทรอยด์หลั่งฮอร์โมนไทรอยด์มากกว่าเดิมอีก เมื่อหลั่งฮอร์โมนไทรอยด์มากกว่าเดิม ร่างกายทำงานมากกว่าเดิม พิษก็ยิ่งค้างมากกว่าเดิม การเกร็งตัวแล้วพิษมันเยอะ มันเกร็งตัวแล้วบีบพิษออกไม่หมด เกร็งตัวค้าง เลือดลมไหลเวียนไม่ได้ พิษยิ่งค้างมากขึ้น ๆ ๆ ๆ ๆ พอพิษมาก ๆ ๆ ๆ พิษนั้นก็ไปกระตุ้นให้เกิดมะเร็งขึ้น นะครับ ที่ไทรอยด์ทำงานมากก็มีของเสียมาก กล้ามเนื้อที่ไทรอยด์เองก็ต้องเกร็งตัวบีบออก เลือดลมไหลเวียนไม่ได้เป็นไง ก็ต้องผลิตเซลล์ใหม่มาแทนเซลล์เดิมที่เสื่อม เกร็งตัวบีบเอาพิษออก แข็งแปะไว้ แข็งแปะไว้ แข็งแปะไว้ ก็เป็นมะเร็ง นะ เป็นอยู่อย่างนี้
            เสร็จแล้ววิธีรักษาไทรอยด์ในทางแพทย์วิถีธรรมทำอย่างไรไทรอยด์เป็นพิษ เมื่อรู้ต้นเหตุแล้วว่าไทรอยด์เป็นพิษเกิดจากร่างกายมีพิษมาก จนเกิดสภาพไทรอยด์เป็นพิษคือผลิตฮอร์โมนไทรอยด์มากเกินไป จนสุดท้ายอ่อนเพลีย อ่อนล้า มือสั่น ใจสั่น ตกใจง่าย เพราะร่างกายมันผลิตพลังงานง่าย มันก็ผลิตพลังงานง่าย มันก็สั่นง่าย นะ ตกใจง่าย เพราะมันผลิตพลังงานมันเกร็งตัวเอาพิษออกง่าย นะครับ

วิธีแก้ 


ก็แก้ที่ต้นเหตุ พระพุทธเจ้าบอกว่า ดับทุกข์ดับที่เหตุ ระบายเอาพิษออกซะ เมื่อระบายเอาพิษออกไปทุกทางนั่นแหละ ใส่สิ่งที่สมดุลร้อนเย็นเข้าไป เมื่อระบายเอาพิษออก จิตวิญญาณก็ไม่ต้องเสียพลังในการขับพิษ แล้วกล้ามเนื้อก็คลายตัว เลือดลมไหลเวียนสะดวก ของเสียออกได้ ของดีเข้าไปเลี้ยงได้ จิตเราไม่ต้องสั่งให้ร่างกายผลิตพลังงานเพิ่มมาขับพิษแล้ว เค้าก็ไม่ต้องไปสั่งฮอร์โมนไทรอยด์ เค้าก็จะสั่งฮอร์โมนไทรอยด์ให้ลดการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ลงมา เพราะไม่มีพิษต้องขับออกแล้ว ไม่ต้องใช้พลังงานแล้ว ไม่ต้องใช้ไทรอยด์ไปกระตุ้นกระบวนการเมตาบอลิคแล้ว เค้าก็สั่งลดกระบวนการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ลง เพราะฉะนั้นไทยรอยด์เป็นพิษก็หายได้ด้วยประการฉะนี้

มีแพทย์คนนึง เป็นแพทย์แผนปัจจุบันเนี่ยนะครับ มาใช้วิธีการของเรา ท่านเป็นไทรอยด์เป็นพิษ จนไปกลืนแร่ก็ยังไม่หาย เป็นหนักขึ้น ๆ ตาปูดออกมา แสบตา ปวดตา รักษาก็ไม่หาย พอไม่หายปุ๊บก็มารักษาแบบเรา รักษาแบบแผนปัจจุบันไม่ดีขึ้น พอมารักษาแบบเราก็นี่แหละ มาถอนพิษออก เป็นพิษร้อน ถอนพิษร้อนออก พอถอนพิษออกปุ๊บเป็นไง ๓ เดือนเท่านั้นนะครับ ท่านก็กลับมา เล่าให้ฟังว่า ขอบคุณอาจารย์มาก ไทรอยด์เป็นพิษหายแล้ว ท่านว่างั้น ตรวจทุกค่าปกติหมดแล้ว นี่อุตส่าห์ไปกลืนแร่มา

ทำลายไทรอยด์นะ ก็ยังไม่หาย แล้วก็ใช้ยาหยอดตาของเราประจำเลย ท่านบอก ดีกว่าน้ำตาเทียมมาก หยอดน้ำตาเทียมแทบจะไม่มีผลอะไรเลย แต่พอหยอดน้ำสกัดย่านางนะ โอ๊ย อาการแสบปวดตาลงลดอย่างรวดเร็ว อาการแห้งตาแสบปวดตาลดลงอย่างรวดเร็ว ดีกว่า ท่านก็บอกว่าดีกว่าน้ำตาเทียม สุดท้ายท่านก็ใช้ไอ้นี่เราเป็นประจำ เลิกใช้น้ำตาเทียม นะฮะ นี่ก็เล่าให้ฟังว่าเป็นอย่างนี้

           ส่วนคนที่รักษาแผนปัจจุบัน ท่านกินยากดฮอร์โมนไทรอยด์เอาไว้ ไทรอยด์มันหลั่งมามากใช่มั้ย กินยากดเอาไว้เลย แทนที่จะไปแก้ที่ต้นเหตุว่าระบายพิษออก มันจะได้ไม่ต้องผลิตไทรอยด์มาก เพื่อที่จะมาขับพิษ ท่านก็กินยากดฮอร์โมนไทรอยด์เลย พิษยังมากเหมือนเดิม กดไว้ กดไว้ พอมันมาก ๆ ก็กดไม่อยู่เหมือนเก่านั่นแหละ พอพิษมาก ๆ มันก็กดไม่อยู่ใช่มั้ย จิตก็ต้องสั่งให้ไทรอยด์ผลิตพลังงานเพิ่มมาขับพิษออกใช่มั้ย ท่านก็กินยา กด ๆ ๆ เข้าไป กดไปกดมาก็กดไม่อยู่ ไทรอยด์ก็มากเหมือนเก่า พอไทรอยด์มากเหมือนเดิมเป็นไง พอฮอร์โมนไทรอยด์มันมาก ท่านก็บอก เฮ้ย มันดื้อนี่หว่า ยากดมันไม่อยู่ อย่ากระนั้นเลย กลืนแร่เข้าไปทำลายไทรอยด์เลย ก็กลืนแร่เข้าไปทำลายไทรอยด์ เพื่อไม่ให้มันผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ได้ ขนาดกลืนแร่เข้าไปแล้วก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้อยู่อีก อย่ากระนั้นเลยตัดออกดีกว่า ฮึ ๆ ๆ ๆ นี่คือการรักษาที่ไม่แก้ที่ต้นเหตุ ก็จะทำแบบนั้นไปเรื่อย ๆ ตัดออกก็ยังไม่หายหรอก เพราะอะไร เพราะพิษยังอยู่เหมือนเก่า เราก็ใส่พิษเข้าไปเหมือนเดิม ก็ยังมีพิษอยู่ในร่างกายเป็นโรคแทรกซ้อนอื่นเหมือนเดิมอีก แถมร่างกายยังไม่มีพลังขับพิษอีกต่างหาก ยุ่งเข้าไปใหญ่ นะ

เพราะงั้นวิธีปฏิบัติทำอย่างไร มันตัดมาเรียบร้อยแล้วก็แล้วไป นะ ก็ตัดมาเรียบร้อยแล้วจะไปทำยังไงได้ล่ะ ยังไม่ตัดก็ต้องทานพวกฤทธิ์เย็นเรื่อย ๆ หรือถอนพิษออก ๙ ข้อ นั่นแหละ ระบายพิษออกเลยด้วย ๙ ข้อนั้น ทุกวิธี รวมทั้งที่ไทรอยด์เราก็ต้องเอาสมุนไพรที่ถูกกัน ไปพอก ไปทา ไปสัมผัสด้วย ส่วนตัดไทรอยด์ไปแล้วเราก็ทำความสมดุลอย่างอื่นแทน นะ ในเบื้องต้นต้องกินยาไปก่อนเพราะมันไม่มีฮอร์โมนไทรอยด์แล้ว กินไปก่อนในเบื้องต้น แล้วเราก็ปรับสมดุลร้อนเย็นแทน แล้วทำกุศลไปมาก ๆ แล้วพลังกุศลกับพลังสมดุลร้อนเย็นจะไปสร้างฮอร์โมนไทรอยด์ขึ้นมาเอง เมื่อมันเต็มรอบ

ท่านปฏิบัติตัวโดยกินยาไปก่อน กินยาเพิ่มฮอร์โมนไปก่อน จนพลังชีวิตเราดีมากขึ้นแล้ว เรารู้สึกโอ๋พลังชีวิตเต็มเลยนะ สบายเบากายมีกำลังเป็นอยู่ผาสุก ลดฮอร์โมนไทรอยด์ลง ทีนี้ลดลง ค่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ ถ้าพลังชีวิตดีก็ลดลงไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายทิ้งได้ นะครับ

จิตวิญญาณของเราสร้างได้ทุกอย่างไม่ต้องห่วง ปาฏิหาริย์เกิดได้เสมอเมื่อเกิดความสมดุล แล้วก็ จิตของคนนั้นวิเศษไม่ต้องห่วงเลย จิตคนน่ะวิเศษ นะครับ ถ้าเราทำกุศลได้มาก ๆ ๆ ๆ อะไรเค้าก็สร้างเองได้ ไม่ต้องห่วง มีกุศลมาก ๆ นี่อะไรเค้าก็สร้างขึ้นมาทดแทนได้หมด เราทำสมดุลร้อนเย็นไป แล้วทำกุศล ทำใจไร้กังวลไปมาก ๆ นะ พลังแห่งกุศลจะสร้างได้ทุกอย่าง ผมไม่รู้จะอธิบายยังไง เค้าทำได้อย่างปาฏิหาริย์ มันมีพลังแห่งคุณงามความดีไปสังเคราะห์ธาตุที่ดีขึ้นมาแทนได้เลยนะครับเมื่อถึง     เวลาอันควร จะอธิบายยังไงน่ะนะ ฮึ ๆ อธิบายได้เท่านั้นแหละ พลังงานกุศลมันเหมือนกับพลังงานอกุศล ก็สร้างได้สารพัดอย่างน่ะแหละ เหมือนกับพลังงานอกุศลน่ะ ดูดเอาธาตุเอาพลังงานขึ้นมาสร้างอะไร เอาธาตุเอาพลังงานขึ้นมาสร้าง เอ่อ ขึ้นมาสร้างก้อนหินในท้องของคนที่เลี้ยงหมู แล้วเอาหินยัดปากหมูนั่นแหล

เค้าสามารถสร้างก้อนหินได้อย่างงั้นฉันใด พลังงานกุศลก็สลายหินได้ฉันนั้น ไม่มีหินได้ นะครับ เป็นอย่างเงี้ยไม่รู้จะอธิบายยัง ไง เหมือนกัน นะ คนไข้ที่เป็นฝีหนองอ่ะ รูโบ๋เท่ากำปั้น น่ะ ภายในเจ็ดวันน่ะ นะ เอ่อ ฝีหนองอ่ะ ๗ วัน หนองแตกทะลักรูโบ๋เท่ากำปั้น แต่อีก ๓ วัน เนื้อตื้นเต็มได้ยังไง อันเดียวกันนั่นแหละ นะครับ มันมีพลังของความสมดุลของกุศลเข้าไปสังเคราะห์


 http://www.facebook.com/photo.php?fbid=507224672622736&set=a.506074529404417.120455.451999981478539&type=1&theater

ศึกษาเรื่องแพทย์วิถีธรรมเพิ่มเติมได้ทื่เวป www.morkeaw.net.